IAMS TH
Is Your Mature Dog Eating Less?
Is Your Mature Dog Eating Less?

adp_description_block159
สุนัขสูงวัยของคุณกินน้อยลงหรือไม่

  • แบ่งปัน

สุนัขสูงวัยของคุณสูดดมฟุดฟิดลงในชามแล้วเดินออกไปแทนที่จะกินมันใช่ไหม? คุณอาจคิดว่าเค้าแค่เลือกกิน  แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องจับตาดูว่าเค้ากินมากแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเค้าอายุมากแล้ว ในขณะที่อายุมากขึ้น การรับรู้กลิ่นและรสย่อมลดลง อาจเกี่ยวข้องกับการที่เค้าอยากอาหารน้อยลง แต่การสูญเสียความอยากอาหารสามารถบ่งบอกถึงปัญหาทางการแพทย์ที่ร้ายแรงได้

“ สิ่งสำคัญคือต้องให้สุนัขของคุณ มีแคลอรีเพียงพอเพราะการลดน้ำหนักอาจทำให้สัตว์เลี้ยงสูงวัยอ่อนแอลงได้” Wendy Brooks, D.V.M. เตือนว่าการลดความอยากอาหารควรได้รับคำแนะนำจากสัตวแพทย์ของคุณ กฎง่ายๆ: หากสัตว์เลี้ยงของคุณไม่ได้กินอะไรเลยในหนึ่งวัน ให้ไปหาสัตว์แพทย์

 

article is your mature dog eating less header

 

6 วิธีที่ช่วยให้สุนัขสูงวัยกินมากขึ้น

1. ผสมอาหารเม็ดกับอาหารเปียก

ในสุนัขนั้นมักจะชอบกินอาหารเปียก เพราะชอบรสชาติและเนื้อสัมผัสของมัน ” Brooks กล่าว คุณสามารถเพิ่มอาหารเม็ดที่เค้าชื่นชอบลงไปในอาหารเปียกได้

2. อุณหภูมิที่เหมาะสม

สุนัขชอบอาหารอุ่น ๆ หรืออุณหภูมิห้อง (ไม่ร้อนหรือเย็น) หลีกเลี่ยงการเสิร์ฟอาหารเปียกจากตู้เย็นและเก็บอาหารให้พ้นความร้อน อีกสาเหตุที่ทำให้เขาไม่กินเพราะอากาศข้างนอกมันร้อนเกินไป

3. ลองเปลี่ยนรสชาติดู

สุนัขชอบความคงเส้นคงวา เมื่อพูดถึงอาหารของพวกเค้า อย่าเปลี่ยนทุกวัน แต่ลองใช้รสชาติใหม่ เช่น เนื้อแกะ หรือ ไก่ และดูการตอบสนองของเค้า (อาจทำให้กระตุ้นการรับกลิ่นของเค้า) เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องเสีย แนะนำให้ผสมอาหารใหม่กับอาหารเก่าของเค้าเพิ่มขึ้นทีละน้อยในแต่ละวันจนเท่ากัน

4. วางอาหารไวใกล้ๆ

ปัญหาสุขภาพของสุนัขสูงวัยทั่วไป เช่น โรคไขข้อ หรือ อาการปวดข้อ สามารถทำให้เค้าไปที่กินอาหารได้ยาก วางอาหารและน้ำในที่ ๆ เค้าใช้เวลาส่วนใหญ่ และวางน้ำในทุกชั้นของบ้านด้วย

5. มีสะอาดเอาไว้ตลอดเวลา

สัตว์เลี้ยงสูงวัยมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดน้ำ เตรียมชามสำหรับน้ำสะอาดตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยป้องกันโรค เช่น โรคไต และช่วยในการย่อยอาหาร

6. คำชมเชย

สุนัขชอบคนอารมณ์ดี หากคุณเห็นเค้ากินอาหารก็ให้รางวัลด้วยการชมเชยเล็กน้อย เค้าจะรับรู้ว่ามันทำให้คุณมีความสุขและจะทำพฤติกรรมซ้ำอีก

  • วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
    วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย
    adp_description_block404
    วิธีดูแลลูกสุนัขให้เติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย

    • แบ่งปัน

    หากคุณอยากมีเพื่อนเล่นแก้เหงาหรือเพื่อนแท้ที่คอยอยู่เคียงข้าง ขอแนะนำให้รับเลี้ยงลูกสุนัขไว้สักตัว แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าคุณสามารถดูแลรับผิดชอบเจ้าตัวน้อยเหล่านี้ได้ เพราะลูกสุนัขต้องการความรักความเอาใจใส่เพื่อให้เติบโตอย่างมีความสุขและมีสุขภาพดี
     

    การดูแลลูกสุนัขไม่ใช่แค่การให้อาหาร มอบความรัก หรือชวนเล่นเป็นครั้งคราว คุณจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับโภชนาการที่เหมาะสม ฝึกพวกเค้าให้รู้จักขับถ่ายเป็นที่ รวมถึงต้องพาไปตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนป้องกันโรคต่าง ๆ ซึ่งกระบวนการดูแลทั้งหมดนี้จะช่วยให้คุณและเจ้าตัวน้อยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมากขึ้น คุณจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงการเจริญเติบโตของพวกเค้า สำหรับผู้เลี้ยงที่ไม่มั่นใจหรือมีความกังวล ในบทความนี้จะบอกเคล็ดลับและวิธีดูแลลูกสุนัขในช่วง 2 – 3 เดือนแรกให้ทุกคนได้รู้กัน
     

    การนำลูกสุนัขกลับบ้าน

    มีอะไรบ้างที่เราควรรู้เกี่ยวกับการดูแลลูกสุนัข? มาเริ่มกันที่การรับลูกสุนัขเข้าบ้านวันแรก คุณควรจัดเตรียมพื้นที่ที่ปลอดภัย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดที่เป็นอันตรายอยู่รอบ ๆ ตัวลูกสุนัข เช่น สารเคมี สายไฟ ต้นไม้ที่มีพิษ ของมีคม และข้าวของที่แตกหักง่าย เพราะลูกสุนัขก็เปรียบเหมือนทารกตัวน้อย ๆ พวกเค้าบอบบางแต่ก็มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น นอกจากนี้คุณต้องซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ให้พร้อม อย่างเช่น ชามอาหาร ปลอกคอ สายจูง และเบาะนอนนุ่ม ๆ สำหรับพักผ่อน
     

    การให้อาหารลูกสุนัข

    หนึ่งในการดูแลที่สำคัญคือการเลือกโภชนาการที่เหมาะสม ควรเลือกสูตรอาหารสำหรับลูกสุนัขโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเค้ามีความต้องการแตกต่างจากสุนัขวัยอื่น อีกทั้งยังต้องการสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่ดี 
     

    การเปลี่ยนมาให้อาหารสำหรับสุนัขโตจะขึ้นอยู่กับขนาดพันธุ์ สำหรับสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์กลาง คุณสามารถเปลี่ยนสูตรอาหารได้เมื่อพวกเค้ามีอายุ 9 – 12 เดือน แต่หากเป็นสุนัขพันธุ์ใหญ่ ควรเปลี่ยนเมื่อมีอายุ 12 – 24 เดือน นอกจากการให้อาหารที่ดีและเหมาะสมแล้ว อย่าลืมเตรียมน้ำดื่มสะอาดไว้ให้พวกเค้าด้วย
     

    ตารางการให้อาหารสำหรับลูกสุนัข

    • 6 – 12 สัปดาห์ - 4 มื้อต่อวัน 
    • 3 – 6 เดือน - 3 มื้อต่อวัน
    • 6 – 12 เดือน - 2 มื้อต่อวัน

    ไอแอมส์™ มีผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับลูกสุนัขและสุนัขโตให้เลือกหลากหลาย โดยผลิตภัณฑ์ของเราคัดสรรแต่วัตถุดิบคุณภาพระดับพรีเมียม นอกจากนี้ยังอุดมด้วยโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ มั่นใจได้เลยว่าน้องหมาของคุณจะเพลิดเพลินกับอาหารทุกคำที่พวกเค้าลิ้มรส
     

    การพบสัตวแพทย์และการฉีดวัคซีน

    การไปพบสัตวแพทย์เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการดูแลลูกสุนัข การเข้าพบครั้งแรกจะช่วยให้คุณรับรู้ข้อมูลสุขภาพโดยรวมของเจ้าตัวน้อย คุณหมอจะแจ้งตารางการฉีดวัคซีนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลเหล่านี้เพิ่มเติมด้วย

    • ตารางการฉีดวัคซีน
    • การทำหมัน
    • การฝึกขับถ่าย
    • การฝึกทำตามคำสั่งพื้นฐาน
    • การสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ
    • โภชนาการที่เหมาะสม
    • การถ่ายพยาธิ

    การฝึกเข้าสังคมให้ลูกสุนัข

    ลูกสุนัขควรได้พบเจอกับผู้คน เพื่อนหมาตัวอื่น และเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่หลากหลาย เพื่อสร้างความคุ้นเคยและเรียนรู้ที่จะปรับตัว โดยเวลาที่สำคัญที่สุดในการฝึกเข้าสังคมคือช่วงอายุระหว่าง 3 – 12 สัปดาห์ และแนะนำให้ฝึกอย่างต่อเนื่อง
     

    การฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัข

    คุณควรเริ่มฝึกขับถ่ายให้ลูกสุนัขตั้งแต่วันแรกที่พาเข้าบ้าน เพื่อปลูกฝังให้พวกเค้าขับถ่ายเป็นที่ ไม่ต้องคอยทำความสะอาดทุกครั้ง เริ่มต้นฝึกด้วยการเลือกพื้นที่ขับถ่ายนอกบ้าน จากนั้นพาลูกสุนัขไปที่ดังกล่าวเมื่อถึงเวลาขับถ่าย ให้รางวัลทันทีหลังจากพวกเค้าขับถ่ายเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำโทษไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม เพราะจะทำให้ลูกสุนัขหวาดกลัวและอาจแสดงท่าทีก้าวร้าว
     

    การฝึกที่ดีที่สุดคือการฝึกในเชิงบวก หรือก็คือการให้รางวัลเมื่อพวกเค้าทำได้ดีหรือทำตัวน่ารัก และควรกำหนดระยะเวลาการฝึกเป็นช่วงสั้น ๆ เพื่อไม่ให้ลูกสุนัขรู้สึกเบื่อหรือเหนื่อยจนเกินไป
     

    การดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน

    น้องหมาก็มีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟันเช่นเดียวกัน ทั้งการมีกลิ่นปาก ฟันหลุด และโรคปริทันต์ ซึ่งพวกเค้ามักจะไม่แสดงอาการเจ็บปวดให้เห็นอย่างชัดเจน ผู้เลี้ยงจึงควรดูแลช่องปากและฟันของพวกเค้าเป็นประจำ โดยควรเริ่มตั้งแต่อายุยังน้อยหรือเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คุณสามารถปรึกษาสัตวแพทย์เกี่ยวกับการดูแลดีที่สุดสำหรับเจ้าตัวน้อยของคุณเพิ่มเติมได้
     

    การออกกำลังกายสำหรับลูกสุนัข

    แม้จะเป็นวัยที่เต็มไปด้วยพลัง แต่ผู้เลี้ยงควรควบคุมปริมาณและเวลาในการออกกำลังกายของลูกสุนัขให้เหมาะสม และปล่อยให้พวกเค้าได้พักผ่อนทุกครั้งที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการให้เล่นเป็นเวลานาน ๆ เพียงครั้งเดียว แนะนำให้พาออกไปเดินเล่นระยะสั้น ๆ วันละสองครั้งแทน